มีเรื่องเล่าเล่น ๆ ในวงหมากรุก ระหว่างของคนเมืองเพชรกับคนสุพรรณบุรี ว่าเมืองไหนมีต้นตาลมากกว่ากัน ไม่ว่าสุพรรณจะบอกจำนวนเท่าไหร่ เพชรบุรีต้องมีมากกว่าหนึ่งเสมอ เหน่อสุพรรณยอมพ่ายไม่อยากต่อปากต่อคำ เพราะเกรงน้ำเสียงและท่วงท่าดุดันของคนใจนักเลงเมืองเพชร แต่เวลาไปจีบสาว หนุ่มเมืองนี้ปากหวานแต่จริงใจ จนมีคำเปรียบเปรยว่า ปากหวานเหมือนน้ำตาลเมืองเพชร
… หวาน …
หากยึดถนนเพชรเกษมเป็นเส้นแบ่งพรมแดน น้ำตาลโตนดที่ได้จากฝั่งตะวันออกซึ่งอยู่ใกล้ฝั่งทะเล จะหวานหอมน้อยกว่าตะวันตก จึงเชื่อว่าดินมีส่วนให้คุณภาพน้ำตาลต่างกัน แหล่งตาลโตนดชั้นดีอยู่ที่อำเภอบ้านลาด หลายแห่งจัดเป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำน้ำตาลโตนดตั้งแต่เริ่มจนจบ อย่างเช่น บ้านถ้ำรงค์, สวนตาลกำนันถนอม ฯลฯ
ภาพดงตาลกลางทุ่ง ในเวลารุ่งเช้าและเย็นย่ำค่ำ เป็นที่นิยมของคนชอบถ่ายภาพ ส่วนโลเกชั่นอาจต้องตระเวนหา ทางฝั่งตะวันตกแถวอำเภอบ้านลาดจะแน่นเฟรมกว่า แต่ละฤดูกาลก็ให้อารมณ์และความรู้สึกต่างกัน เป็นหนึ่งกิจกรรมต้องห้ามพลาดเมื่อมีโอกาสมาเยือน
ก้นครัวตามบ้านสมัยก่อน ปัจจุบันบางบ้านอาจทำอยู่ เค้าจะเคี่ยวน้ำตาลโตนดใส่หม้อเล็ก ๆ เอาไว้เติมแต่งรสชาติอาหาร ลิ้นคนเพชรจึงติดหวานแม้เป็นอาหารคาว พิสูจน์ง่าย ๆ ด้วยการลองไปชิมก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-หมูน้ำแดง หลายเจ้าที่ขายอยู่ นั่นอาจเป็นเหตุผลให้คนย่านนี้ เติมซอสพริกศรีราชาผสมพริกกระเหรี่ยงดองเกลือในก๋วยเตี๋ยว หวานซ่อนเผ็ดกลมกล่อมแบบคนเมืองเพชร
“ขนมจีนทอดมัน” เมนูแปลกสำหรับคนต่างถิ่น แต่ที่นี่เค้ากินทอดมันปลากรายกับขนมจีนเป็นปกติ บางเจ้าอาจใช้ปลาอินทรีผสมกับปลาน้ำดอกไม้ คลุกเคล้าเครื่องแกง ใบกระเพราสด ปั้นพอคำหย่อนลงในน้ำมันเดือด สุกแล้วจับวางบนขนมจีน ราดน้ำจิ้มใสคล้ายอาจาด เสริมด้วยแตงกวาหั่น รสหวานอมเปรี้ยวหน่อย ๆ ลองหาชิมดูหากมีโอกาส
“ข้าวแช่” ตำรับชาววังที่ได้รับการถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ครั้งทรงเสด็จมาประทับบนพระนครคีรี(เขาวัง) โดยเจ้าจอมมารดากลิ่น (ซ่อนกลิ่น) พระสนมเอกได้ทำถวาย บ่าวไพร่ที่รับใช้อยู่ในห้องเครื่องจึงได้เรียนรู้และแพร่หลายออกไปสู่คนท้องถิ่นในที่สุด เครื่องเคียงของข้าวแช่เมืองเพชรจะมีแค่ 3 อย่างคือ ปลาหวาน ไชโป้วหวาน ลูกกะปิ ไม่ครบเครื่องเหมือนข้าวแช่ชาววัง แต่ละเจ้าก็มีเคล็ดลับความอร่อยเฉพาะตัว
อย่างข้าวแช่ป้าเอื้อน ตรงหัวมุมถนนอนามัย จะใช้ปลากระเบนตากแห้งยีให้ฟู เคี่ยวกับน้ำตาลโตนดนานหลายชั่วโมงจนได้ปลาหวานเนื้อหนึบ ส่วนลูกกะปิทอด ใช้กะปิอย่างดีคลุกเคล้าเครื่องเทศพวกหอมแดง ตะไคร้ รากผักชี ฯลฯ จนเนื้อเข้ากัน ปั้นแล้วนำไปทอด… วิธีหม่ำข้าวแช่ให้อร่อย ควรตักเครื่องเคียงเข้าปากเคี้ยวจนพอใจ ตามด้วยข้าว ซดน้ำอบควันเทียน ลอยดอกมะลิ กระดังงาไทยลนไฟ หอมเย็นชื่นใจตบท้าย นิยมใช้ช้อนทองเหลืองเพราะช่วยเก็บความเย็นได้ดี ป้าเอื้อนขายมาตั้งแต่อายุ 17 ปี จนล่วง 74 ปี เข้าไปแล้ว ยังนั่งประจำการอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือราคาชุดละ 20 บาท (มีนาคม 2559)
… เค็ม …
เพชรบุรีเป็นแหล่งทำเกลือสมุทรใหญ่ที่สุดในประเทศ ถนนเลียบชายฝั่งช่วงบ้านบางแก้ว ปากทะเล บางขุนไทร ต่อไปจนถึงอำเภอบ้านแหลม ในช่วงฤดูหนาว – ฤดูร้อน สองฝั่งทางถูกขนาบด้วยนาเกลือ ย่างเข้าฤดูฝนจะหยุดพัก เพราะน้ำฝนเป็นอุปสรรคสำคัญของการทำนาเกลือ
เป็นอาชีพที่มีกระบวนการค่อนข้างซับซ้อนและใช้เวลา ต้องอาศัยความอดทนมากพอสมควร นาผืนใหญ่จะถูกแบ่งเป็นกระทง … ผืนที่ใกล้น้ำจะเรียกว่า “นาขังน้ำ” เค้าจะนำน้ำทะเลมาขังไว้เป็นเดือน ๆ หรือหลายเดือน เพื่อให้ตกตะกอน จากนั้นจะผันน้ำเข้า “นาตาก” อาบแดดให้น้ำระเหยจนวัดค่าความเข้มข้นได้ 5 ดีกรีโบเม่ (หน่วยวัดความเค็ม) สมัยยังไม่มีเครื่องวัด ชาวนาเกลือจะใช้วิธีสังเกตฟองอากาศสีของแสงที่ตกกระทบผิวน้ำ
จากนาตากจะผันเข้าสู่ “นาดอก” เมื่อเห็นว่าความเค็มได้ที่จึงผันเข้า “นาวาง” ระหว่างนี้อาจระบายน้ำกลับไปกลับมาระหว่างนาดอกกับนาวาง จนได้ค่าความเข้มข้นที่ต้องการ สุดท้ายจะมาจบที่นาวาง ทิ้งไว้ 3-4 คืน จนเกลือตกผลึก ถึงจะมีการรื้อหรือแซะเกลือจากพื้นนา แล้วโกยไว้เป็นกอง ปล่อยไว้หนึ่งคืนให้สะเด็ดน้ำ นาวางจะอยู่ติดฉางเกลือ ในตำแหน่งใกล้ถนนเพราะง่ายต่อการขนส่ง
ช่วงนาดอก… จะมีผลึกเล็ก ๆ ลอยอยู่บนผิวน้ำเรียกว่า “ดอกเกลือ” ชาวนาเกลือมักจะช้อนมาเก็บไว้ นิยมนำมาใส่ในอาหารหรือคลุกข้าวเพราะรสไม่เค็มมาก บางคนว่าเค็มอ่อน ๆ มีหวานตามที่ปลายลิ้น ยังใช้เป็นส่วนผสมในตำรายาโบราณหลายขนาน … ดอกเกลือคุณภาพดีต้องช้อนก่อนฟ้าสาง เพราะยังไม่โดนแดดเผา ถือเป็นของมีค่าที่ชาวนาเกลือหวงแหน นอกจากจะเก็บไว้ในบ้าน ยังเป็นของกำนัลชั้นยอด สำหรับเจ้านายผู้ใหญ่หรือคนที่เค้าเคารพนับถือ
ดอกเกลือถูกนำมาผสมกับสมุนไพรอย่าง ขมิ้น ไพล ว่านนางคำ ทานาคา ฯลฯ ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวพรรณ โดย “กลุ่มอาชีพเกลือทะเลกังหันทอง” ภายใต้แบรนด์ ispa ที่กลุ่มยังเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ และมีบริการนวดตัว นวดเท้า ขัดหน้า ขัดผิว บนระเบียงบ้านเรือนไทย ลมโกรกเย็นสบาย … อยากชิมอาหารแบบท้องถิ่น อย่างต้มส้มปลากระบอก แกงส้มผักกาดดองปลาริวกิว ปูชุบแป้งทอด ฯลฯ ที่นี้เค้าจัดให้ได้ แต่ต้องโทรแจ้งล่วงหน้าก่อนเท่านั้นนะ
แสงสวย ๆ แต้มแต่งผืนนาเกลือยามเช้า-เย็น แผ่นน้ำสะท้อนแผ่นฟ้าราวกระจกเงา วิถีชีวิตของชาวนาเกลือที่ต้องอาศัยความอดทน ในช่วงรื้อและขนเกลือ เตรียมเมมโมรี่การ์ด แบตเตอรี่ แว่นกันแดด หมวกให้พร้อม แล้วเพลิดเพลินกับความงามที่กลมกลืนอยู่ในวิถีชีวิตตลอดเส้นทางสายเกลือเส้นนี้
กลุ่มอาชีพเกลือทะเลกังหันทอง อยู่บนถนนสาย พบ.4028 ระหว่าง กม.20-21 สอบถามเส้นทางได้ที่ โทร.0 3240 5238-40, 08 6544 4473
… โคลน …
ชายฝั่งตั้งแต่บางตะบูนไปจนถึงแหลมผักเบี้ย เป็นแหล่งสะสมธาตุอาหารและตะกอนดิน ที่ไหลมาจากปากแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำบางตะบูน สมทบกับตะกอนจากฝั่งแม่น้ำแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม จึงมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การขยายพันธุ์ อนุบาลสัตว์น้ำตามธรรมชาติ
บางขุนไทรจัดว่าเป็นชุมชนเข้มแข็ง ในเรื่องการปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เป็นแหล่งหอยแครงธรรมชาติแหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยังมี หอยเสียบ หอยกาบ และสัตว์น้ำอีกหลายชนิด
แหล่งหาหอยแครงย่านนี้เป็นพื้นที่ธรรมชาติ ไม่มีการขอสัมปทานปกเขตแดนเหมือนทางปากแม่น้ำบางตะบูน ใคร ๆ ก็สามารถเข้ามาหากินได้ จึงมักมีมือรับจ้างจากนายทุน เข้ามาจับหอยโดยใช้เรือคาดหอย หรือไม่ก็ถีบกระดาน มาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ จับไม่เลือกทั้งตัวเล็กตัวใหญ่
ชาวบ้านจึงรวมตัวเป็น “กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ชายเลน” ผลัดเปลี่ยนกันออกตรวจตรา ไม่ให้ใครเข้ามาหากินแบบทำลายธรรมชาติ จนได้รับรางวัลดีเด่นด้านการอนุรักษ์จากหลายองค์กร เป็นต้นแบบให้หลายชุมชนที่นำไปปรับใช้กับพื้นที่ของตัวเอง
นอกจากงานด้านอนุรักษ์ ยังจัดการท่องเที่ยว … นั่งเรือชมวิถีชีวิตดั้งเดิมคือการถีบหรือไสกระดานหาหอย
“เรือหนึ่งลำนั่งได้ 3-4 คน ตามขนาดของเรือ เราคิดเหมา 700 บาท ไม่จำกัดเวลา แล้วแต่นักท่องเที่ยวอยากจะอยู่นานแค่ไหน คนขับเรือก็เป็นชาวบ้านบางขุนไทร ถามอะไรตอบได้หมด” จรรยง พิทักษ์ หัวเรี่ยวหัวแรงของกลุ่มอนุรักษ์ฯ บอกกับเรา
จากท่าเรือตรงที่ตั้งของกลุ่มอนุรักษ์ฯ เรือจะแล่นออกสู่ชายฝั่ง ที่เป็นแหล่งหอยแครง ทุกช่วงน้ำลด เราจะเห็นชาวบ้าน นุ่งห่มมิดชิด สวมถุงมือป้องกันอย่างดี ถีบกระดานหาหอยกระจายอยู่ทั่วบริเวณ บ้างก็ลอยเรือรอเวลาน้ำลดเต็มที่เสียก่อน เพราะมีโอกาสสูงที่จะได้หอยในปริมาณมาก นกหลายชนิดเดินย่ำเลนหาอาหารท่าทางมีความสุข เพราะหากินร่วมกันอย่างคุ้นเคย เค้าเลือกจับเฉพาะตัวที่ได้ขนาด พวกไซส์จิ๋วจะปล่อยให้เติบโต ช่วงเวลาสั้น ๆ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่สร้างรายได้พอเพียงเลี้ยงชีพ ไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานออกไปหางานทำที่อื่น
จากลำคลองสายหลักที่มีน้ำขัง คนขับหักหางเสือเบี่ยงไปทางขวา เรือที่นี่วิ่งบนโคลนได้ … มหัศจรรย์มาก
ใครจะทดลองถีบกระดานหาหอยแบบชาวบ้าน เค้าก็มีอุปกรณ์พร้อมบนเรือ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ต้องโทรมาสอบถามเวลาน้ำลง และลักษณะอากาศก่อนล่วงหน้า
“เราจะสังเกตฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาจากโคลน เพราะตรงนั้นมีหอยแน่ ๆ ”
คนขับเรือแนะวิธีให้กับน้องสาวที่ทดลองลงไปลุยด้วยตัวเอง จนเจ้าหล่อนได้หอยแครงตัวอวบอิ่มขึ้นมา 1 ตัว เป็นรางวัล
บ้านบางขุนไทร อยู่บนถนนสาย พบ.4028 ระหว่าง กม.4-5 สนใจล่องเรือ ติดต่อผู้ใหญ่โดยตรงที่ โทร.08 1866 5027
Scenic Route
เส้นทางเลียบอ่าวไทยตอนในฝั่งตะวันตก เริ่มจากถนนพระราม 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) เลี้ยวซ้ายตรง กม.72 เข้า ทางหลวงชนบท (สส.2021) จนถึงเชิงสะพานข้ามแม่น้ำบางตะบูน อีกฝั่งจะเป็นทางหลวงชนบท พบ.4012 (บางตะบูน-บ้านแหลม) จากบ้านแหลมเลี้ยวตรงสี่แยกไฟแดง ผ่านวัดในกลางไปจนถึงวงเวียน ให้ตรงไปทางหลวงชนบท พบ.4028 (บ้านแหลม-หาดเจ้าสำราญ) ถนนสายนี้เดิมเป็นแนวคันกั้นน้ำเค็ม ที่จัดสร้างตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สองฝั่งทางขนาบข้างด้วยนาเกลือ ซึ่ง จ.เพชรบุรี ถือเป็นแหล่งทำเกลือสมุทรใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นเส้นทางท่องเที่ยวและปั่นจักรยานที่สวยงามแห่งหนึ่ง
Scenic Route เป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากคลองโคน จ.สมุทรสงคราม เลียบชายฝั่งไปถึง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ท่านสามารถหาที่พักได้ในหลากหลายบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองเพชรบุรี หรือจะนอนชิลล์ริมหาด ก็มีให้เลือกเช็คอินตั้งแต่ หาดเจ้าสำราญ ปึกเตียนไปจนถึงชะอำ … Traveloka เป็นหนึ่งทางเลือกที่สะดวกรวดเร็ว … จะยินกอดปุยหมอกบนม่อนแจ่ม อาบแดดอยู่ภูเก็ต ฯลฯ ก็สามารถเข้าไปอัพเดทราคาพร้อมโปรโมชั่นจากโรงแรมรีสอร์ท ที่ปล่อยของมาให้เลือกทุกสัปดาห์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Traveloka บนสมาร์ทโฟน
ตัดกังวลเรื่องบัตรเครดิต เพราะเค้าเพิ่มช่องทาง … โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม, เคาน์เตอร์ธนาคาร, อินเทอร์เน็ตแบ๊งก์กิ้ง, 7- Eleven และเคาน์เตอร์เพย์เมนต์หลายแห่ง