รถกระบะถูกเสริมที่นั่งพิเศษ เพื่อรับส่งนักท่องเที่ยว ในช่วงเวลา 2-3 เดือน ที่ดอกกระเจียวบาน แต่ละคันเคลื่อนผ่านลำห้วยอย่างระมัดระวัง โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ประจำตำแหน่งคอยดูแลความปลอดภัย ให้สัญญาณอยู่ทั้งสองฝั่ง
“รถเป็นของชาวบ้านที่รวมตัวกันในลักษณะวิสาหกิจชุมชน มีอยู่ประมาณ 25 คัน คิดค่าบริการไปกลับคนละ 60 บาท นโยบายของเราต้องการให้ลำห้วยเป็นอุปสรรคธรรมชาติ ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมไปในตัว แต่ก็อนุญาตให้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือรถที่มีสมรรถนะพร้อม สามารถขับข้ามเองได้ โดยแจ้งทางอุทยาน ฯ ก่อน เพราะเคยมีบางกลุ่มเอารถที่สภาพไม่พร้อมเข้าไป สุดท้ายก็ลำบากเจ้าหน้าที่ต้องลากออกมา”
วรพล ดีปราสัย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรทองบอกกับเรา
สะพานถูกทดแทนด้วยถนนลาดยางเรียบกริบหลังผ่านลำห้วย ฟ้าหม่นในฤดูฝน เป็นเกราะกำบังแสงแดดไม่ให้ผ่านมากระทบผิวกายมากนัก จึงเพลิดเพลินกับการโต้ลมชมวิวท้ายกระบะ ตลอดระยะทาง 9 กิโลเมตร เห็นสภาพป่าเต็งรังดังที่หัวหน้าได้อธิบายให้ฟังมาล่วงหน้า เต็งรังเป็นป่าโปร่ง ไม้หลักคือ เต็ง รัง เหียง ฯลฯ มีต้นปรงขึ้นแซมหญ้าเพ็กซึ่งเป็นพืชคลุมดิน ต้นไม้หลายต้นมีร่องรอยคล้ายโดนไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของป่าประเภทนี้
“ป่าเต็งรังกับไฟเป็นของคู่กัน เพื่อสร้างความสมดุลในระบบนิเวศ ถ้าไม่เกิดหรือมีการป้องกันไฟป่าเป็นเวลานาน ปัจจัยหลายอย่างส่งเสริม ทั้งดิน สภาพอากาศ ป่าเต็งรังก็สามารถพัฒนาเป็นป่าเบญจพรรณได้”
วัฏจักรธรรมชาติสร้างพืชพันธุ์สิ่งมีชีวิตให้มีลักษณะเด่นด้อยต่างกัน … ฤดูฝนเย็นฉ่ำชื้นแฉะ เป็นที่โปรดปรานของเชื้อรา แมลงต่าง ๆ เข้าไปอิงอาศัยอยู่ตามเปลือกไม้ เจาะไชลึกไปในลำต้น นานวันเข้ามีโอกาสแห้งเฉาล้มตาย ความร้อนทำหน้าที่ขับไล่ความชื้นและแมลง ต้นไม้จึงถูกสร้างให้มีเปลือกหนา ยืนหยัดอดทนต่อสภาพไฟป่าได้ดี
เมล็ดพันธุ์ซึ่งหล่นร่วงในช่วงฝน ส่วนใหญ่จะมีชั้นเปลือกหนา มักติดคาอยู่ตามดงหญ้า เมื่อไฟป่าเกิดจึงเปิดทางให้ลงไปสัมผัสพื้นดิน ความร้อนยังช่วยให้เปลือกแห้ง ง่ายต่อการแตกต้นอ่อนเพื่อเติบโตต่อไป พวกเปลือกบางเลือกทิ้งเมล็ดหลังผ่านเทศกาลไฟป่า ในจังหวะที่ฝนฟ้าใกล้จะมาเยือน ธรรมชาติจัดสรรเวลาได้อย่างน่าอัศจรรย์
ย่างเข้าเดือนหก ดินฉ่ำฝน ป่าเริงร่าหญ้าระบัดใบให้ เก้ง กวาง สัตว์กินพืชมาแทะเล็ม ต้นกระเจียวซึ่งจำศีลอยู่ใต้ดิน ถึงเวลาอวดสวยให้โลกด้านบนได้ยลความงาม
“ดอกกระเจียวหรือบัวสวรรค์มีทั้งหมด 5 ทุ่ง ต้องใช้วิธีเดินเท้าทั้งไปและกลับ ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร พกน้ำติดตัวไปด้วยสักขวด ใครมีเสื้อกันฝนให้นำไปด้วย เดินช้า ๆ ระวังลื่นนะครับ”
เจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ บอกนักท่องเที่ยวบริเวณลานจอดรถ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเดินเท้า กระดานแผ่นใหญ่แสดงแผนที่และระยะทาง ทุกคนควรดูเป็นเบื้องต้นเพื่อความเข้าใจ เส้นทางช่วงแรกขนานไปตามแนวผา มีจุดให้หยุดพักหายใจชมทิวทัศน์ด้านล่างเป็นระยะทั้ง ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ
ไฮไลต์อยู่ที่ชะง่อนหินแผ่นขนาดย่อม ที่ยินยอมให้นักท่องเที่ยวเข้าไปนั่งโพสท่าหากใจกล้าพอ เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่า ช่วงเข้ามาสำรวจพื้นที่ เวลาไปนั่งตรงนี้เป็นที่หวาดเสียวของใครหลายคน เลยหยิบเอาความรู้สึกนั้นมาตั้งชื่อว่า “ผาหำหด” คงเพราะทีมสำรวจล้วนเป็นชายฉกรรจ์ จึงไม่ทันคิดคำเรียกเผื่อไว้สำหรับคุณสุภาพสตรี
“นักท่องเที่ยวของไทรงาม เป็นกลุ่มที่สมัครใจเดินเท้าเข้าไปชม ซึ่งเหนื่อยและใช้พละกำลังพอสมควร ส่วนอุทยานแห่งชาติป่าหินงามจะเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวกกว่า อีกอย่างที่แตกต่างคือ ที่นี่มีกระเจียวสีขาวหรือเทพอัปสรด้วย”
กระเจียวสีขาวดอกขนาดย่อม ขึ้นกระจัดกระจายไม่เป็นกลุ่มก้อนเหมือนสีชมพูอมม่วง หนึ่งความรู้ที่ได้เกี่ยวกับกระเจียวทั้งสองคือ ดอกซึ่งอยู่ในที่โล่งก้านจะสั้น ส่วนพวกในดงเพ็ก ต้องชูช่อให้พ้นยอดหญ้าเพื่อมารับแดดก้านจึงยาว โซนนี้ทางอุทยาน ฯ ไม่ได้ทำแนวกั้น อาศัยเดินตามรอยทางเก่า ไม่จำเป็นต้องเหยียบย่ำเปิดทางใหม่
“ที่เราเห็นเป็นดอกใหญ่สีชมพู เป็นใบประดับไม่ใช่ดอกจริง ดอกจริงคือดอกเล็ก ๆ ที่แทรกอยู่ ในดอกจะมีเมล็ด พอแก่จะร่วงลงพื้น เวลาฝนตกมันก็ไหลไปกับน้ำ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า เส้นทางเติบโตของต้นกระเจียว เป็นแนวเดียวกับทางน้ำไหล”
รั้วไม้เตี้ย ๆ เรียกได้ว่าเตี้ยมาก กั้นเป็นแนวเขตห้ามเข้าพร้อมติดป้ายเตือน แต่อุทยาน ฯ ได้สร้างเส้นทางให้เราเดินเข้าไปถึงจุดถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะทุ่ง 1 ซึ่งอุ่นหนาฝาคั่งด้วยบัวสวรรค์ งดงามกว่าทุ่งอื่น
“ผมอยู่ที่นี่มาหลายปี มันบอกไม่ได้เหมือนกันว่าทุ่งไหนจะบานก่อนกัน โดยเฉลี่ยจะสะพรั่งเต็มร้อยช่วงเดือนสิงหาคม แต่ปัญหาที่พบคือ นักท่องเที่ยวมักข้ามฝ่าแนวรั้วเข้าไป เจ้าหน้าที่ต้องใช้นกหวีดเป่าเตือน มันจะมีเจเนอเรชันใหม่ ๆ ที่ขึ้นอยู่ใต้ป่าเพ็กเยอะมาก บางต้นบานเป็นครั้งแรก เหมือนลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่เพิ่งฟักออกจากไข่ ถ้าเราย่ำลงไปเค้าก็จะตายหมด”
เวลานานนับชั่วโมงที่เราเพลิดเพลินอยู่บริเวณทุ่ง 1 เสียงนกหวีดดังนับครั้งไม่ถ้วน ผู้ก่อเหตุบางคนยืนอยู่ใกล้ ๆ ในระยะเผาขน ยืนยันคำพูดของหัวหน้าอุทยาน ฯ ได้เป็นอย่างดี (หมายเหตุ : บุคคลในภาพทั้งหมดอยู่ในพื้นที่อนุญาต ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่กล่าวมานี้)
“กระเจียวจะสวยมากในตอนเช้า ตรงทุ่ง 1 มีลานกางเต็นท์ ใครอยากได้ภาพหมอกตอนเช้ารับรองไม่ผิดหวัง แต่เส้นทางเข้ามาจะยากหน่อย ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ถ้าไม่มีรถก็ต้องแบกของเดินเข้ามา ของเราจะเริ่มบานตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี ปีนี้ไม่ทัน ปีหน้าก็ยังมี บ้านเค้าอยู่ที่นี่”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ …
อุทยานแห่งชาติไทรทอง ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ โทร.08 9282 3437