เจษฎา คงสมมาศ

เจษฎา คงสมมาศ

เจษฎา คงสมมาศ

“ผมไม่ใช่เจ้าของศูนย์นะครับ”

จษฎา คงสมมาศ ศิลปินมากฝีมือชาวกาฬสินธุ์ ซึ่งเช่าพื้นที่ด้านข้างโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์แห่งหนึ่ง เปิดเป็นแกลเลอรีเล็ก ๆ ออกตัว หลังเค้าและกุ๊ดจี่ คู่ชีวิตที่เกี่ยวก้อยเป็นกัลยาณมิตรกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ออกมารอรับและทักทาย

ศิลปินซึ่งโด่งดังทั้งในและต่างประเทศ โบกมือลาภูเขา คลื่นลมทะเลตะวันออก กลับมาสร้างงานและโครงการอันเกิดประโยชน์ต่อนักศึกษาที่รักเรียนศิลปะในภาคอีสานที่บ้านเกิด เรื่องราวของชายที่ใคร ๆ ต่างพากันเรียกว่า “อาจารย์เจษ” นั้นน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าเกียรติบัตรรางวัลการันตีฝีมือที่ได้รับมามากมาย ความมุ่งมั่นตั้งใจเปี่ยมล้นบนเส้นทางสายนี้ ยังมีเรื่องของโชคชะตา ฟ้ากำหนด เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างน่าอัศจรรย์

เจษฎา คงสมมาศ

“ผมเป็นเด็กบ้านนอก อยู่แถว ๆ อำเภอสมเด็จ ช่วงมัธยมประสบอุบัติเหตุ ทำให้ขามีปัญหา พ่อเลยอยากให้เรียนต่อช่างไฟฟ้าใกล้ ๆ บ้าน แต่ท่านก็มีอีกเหตุผลที่ไม่อยากให้ไปเพราะตอนนั้นพี่ชายผมเสียพอดี ส่วนผมชอบวาดรูป แล้วไม่รู้เลยนะว่าบนโลกนี้ มีสถาบันที่สอนเกี่ยวกับศิลปะ ก็สืบหาว่าที่ไหนมีเรียนศิลปะบ้าง จนตัดสินใจสมัครเรียนต่อวิทยาลัยอาชีวมหาสารคาม พ่อถามว่า … จบแล้วจะมาเขียนลายโลงศพเหรอ … คือเมื่อก่อนโลงศพจะตกแต่งด้วยการเขียนลาย ตัดแปะโฟม เป็นมุมมองบ้าน ๆ ของคนในสมัยนั้น”

“แต่พ่อก็ขับรถพาเราไปสมัครเรียน ระหว่างทางแกก็กล่อมตลอด เผื่อเราจะเปลี่ยนใจ … เรียนช่างไฟฟ้าเถอะ … ตอนกรอกใบสมัครยังย้ำอีก เปลี่ยนใจมาเรียนช่างไฟฟ้าก็ได้นะ(หัวเราะ) คือเมื่อสมัยยี่สิบกว่าปีก่อน เครื่องใช้ไฟฟ้ามันยังน้อย แกบอกว่าอนาคตมันจะเยอะ เดี๋ยวเปิดร้านหน้าปากซอยบ้านให้”

เจษฎา คงสมมาศ
จากอีสานบ้านนาสู่กรุงมุ่งตะวันออก …

“จบ ปวช. ผมอยากเรียนต่อไทยวิจิตรศิลป์ พ่อบอกว่าถ้าจะเรียนต่อพ่อไม่ส่งนะ พอดีมีงานไหม เทศกาลประจำปีที่ขอนแก่น เราก็ไปขอพื้นที่เล็ก ๆ เป็นซอกข้างเสาไฟฟ้า นั่งดรอว์อิ้งเขียนภาพเหมือนเพราะผมถนัด รูปหนึ่งไม่เกินสิบถึงห้านาที วัน ๆ ผมวาดเยอะมาก หมดคืนก็อาศัยนอนแถว ๆ นั้น รูปละห้าสิบบาท จบงานได้เงินมาหมื่นกว่าบาท เลยมีโอกาสได้เรียน จบไทยวิจิตรตอนแรกคิดจะต่อศิลปากร แต่ผมเบื่อกรุงเทพฯ เลยไปหาเพื่อนที่เรียน ม.บูรพา พอไปถึงบางแสน บรรยากาศแถวนั้นมัน … โอ้โห ! ข้างซ้ายภูเขา ข้างขวาทะเล ที่อีสานมันไม่มี เลยตัดสินใจเรียน ม.บูรพา”

เจษฎา คงสมมาศ
งานชิ้นแรกในชีวิตขายได้ …

“คุณเสริมคุณ คุณาวงศ์ เป็นคนซื้อ ท่านเห็นงานผมที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซื้อไปสามพัน ตอนนั้นยังเรียนไทยวิจิตรศิลป์ เมื่อก่อนไม่มีโทรศัพท์มือถือ หลังจากขายงานผมก็ใช้วิธีเขียนจดหมายติดต่อกับท่าน โต้ตอบจนสนิทกัน ตอนแรกเรายังไม่รู้หรอกว่าท่านเป็นใครทำอะไร จนเดี๋ยวนี้ท่านมีหอศิลป์ของตัวเอง เวลาผมแสดงงานที่ไหน ท่านก็ตามไปดูไปซื้อ บางทีมีเวลาน้อยก็จะบอก … เจษฎา ผมเอางานชิ้นนี้นะ… แล้วก็ออกไปเลย”

เจษฎา คงสมมาศ

บุญคุณเลขศูนย์ …

“ระหว่างเรียน ผมส่งงานประกวดของธนาคารกสิกรไทย แต่ภาพโดนคัดออก เป็นงานชิ้นใหญ่ เราก็ไม่คิดอะไรเพราะยังเด็ก ตอนไปส่งงานกับอาจารย์ ผมตั้งราคาไว้เจ็ดพัน วันหนึ่งทางกสิกรโทรมาหาผม … เจษฎา ทางเราจะซื้องานคุณนะ  …. ผมดีใจมาก ไปฉลองล่วงหน้ากับเพื่อน เต็มที่เลย พอไปรับเช็คปรากฏว่า ตอนที่ตั้งราคาผมเขียนศูนย์เกินมาตัวหนึ่ง มันกลายเป็นเจ็ดหมื่น ตอนนั้นรางวัลชนะเลิศของกสิกรแค่ห้าหมื่น”

เจษฎา คงสมมาศ
แสดงเดี่ยว …

“ตอนเรียน ม.บูรพา ผมบ้าทำงานมาก คนปกติเค้าจะมีงานระหว่างเรียนไม่น่าจะเกินสิบกว่าชิ้น แต่ผมมีงานที่ไม่เกี่ยวกับงานเรียนเลยเกือบ 500 ชิ้น คือทำแล้วมันสนุก ระหว่างเรียนก็ส่งงานประกวดเรื่อย ๆ ได้เงินรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ มาหล่อเลี้ยงชีวิตเรา ตอนปีสาม ผมได้รางวัลยอดเยี่ยมเหรียญทอง การอนุรักษ์ไทย ในปีกาญจนาภิเษก หลังจากนั้นผมอยากหยุดส่งงานประกวด ด้วยความที่งานของเราเยอะมาก เลยคิดอยากลองแสดงงานเดี่ยว แล้วก็ได้จัดที่หอสมุด มหาวิทยาลัยบูรพา คุณกุ๊ดจี่กับเพื่อน ๆ ก็มาช่วยทำโน่นทำนี่ เปิดแสดงวันเดียวผมขายงานได้สี่แสนกว่า เงินสดนี่เต็มสองกระเป๋ากางเกงเลย ผมก็ … เฮ้ย! งานแสดงมันดีอย่างนี้เอง”

เจษฎา คงสมมาศ
ขายดีมีเหตุผล …

“องค์ประกอบที่ทำให้เราขายงานได้คือ บางแสนมันใกล้พัทยา มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ เค้าบอกเราว่าแถวนี้มีแต่งานรีโปรดักส์ ภาคตะวันออกไม่เคยมีงานออริจินัลแบบนี้ ชาวต่างชาติที่มีบ้านอยู่พัทยาหรือโรงแรมหลาย ๆ แห่ง เวลาจะซื้องานแต่ละครั้ง ต้องวิ่งไปกรุงเทพฯ พอเราจัดเค้าเลยบอกต่อกันไปใหญ่โต ผมหยุดงานประกวดแล้วหันมาแสดงงานอย่างเดียว ตอนเรียนปีสี่ผมนั่งรถสองแถว ถือพอร์ตเข้าไปเสนอโรงแรมในพัทยา บุกเข้าไปคนเดียวเลย ตอนนั้นเรียกว่าแสดงงานมั่วมาก แสดงทุกที่ที่เค้ามีพื้นที่ให้แสดง เพราะสมัยก่อนแกลเลอรีมันน้อย เค้าเลยเลือกเฟ้นศิลปิน แต่เรายังเด็กอยู่”

เจษฎา คงสมมาศ
เรียนจบ …

“ผมโชคดีได้ทุนไทยอาร์ต ฟาวเดชั่น ไปเรียนปริญญาโทที่อัมเสตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ เค้าดูจากผลงานที่เรายื่นเข้าไป แล้วได้แสดงงานเดี่ยวที่โน่นด้วย แต่มีเหตุทำให้ไม่ได้เรียน ต้องกลับไทยหลังแสดงงานเสร็จ อีกครั้งจะเข้าเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเคอร์ติน (Curtin) เมืองเพิร์ท ออสเตรเลีย มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกำลังสร้างโรงแรม แล้วอยากให้เราไปเขียนรูป 316 ชิ้น ติดทุกห้องในโรงแรม ตอนนั้นสมัครเรียนเรียบร้อย ตัวก็อยู่ที่โน่นแล้ว แต่เค้าเสนอเงินก้อนโตมาก ๆ มากจนเราลังเล จะเรียนให้จบแล้วค่อยกลับไปหาเงิน แต่งานนี้มันก็ได้เงินมากอยู่นะ สุดท้ายตัดสินใจไม่เรียน กลับมาทำงานรับเงินก่อน”

“หลังจบงานอารมณ์ที่จะเรียนมันหมดไป เราก็มาตั้งคำถามกับตัวเองว่า อยากเป็นอาจารย์หรือเปล่า ซึ่งเราก็ไม่อยากเป็น เลยตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตของเราดีกว่า ก็มาจัดงานแสดงเดี่ยว บางปีเราจัดถึงสามครั้ง แต่ไม่ได้จัดมาห้าปีแล้ว”

เจษฎา คงสมมาศ
ไม่ได้ติดยา แต่ยาติดมา …

“ชีวิตผมเปลี่ยนอีกครั้ง ตอนไปแสดงงานเดี่ยวที่ลอสแอนเจลิส งานทั้งหมด 36 ชิ้น ต้องใส่ตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือจากเมืองไทย มันไปติดอยู่ที่ท่าเรือ ไม่สามารถเอางานออกมาได้ เพราะสินค้าอื่นที่ส่งไปพร้อมเราในตู้เดียวกันมันมียาเสพติด จริง ๆ แขกที่เชิญไปร่วมงานก็ไม่มาก มีนักข่าวสองคน เราก็บอกสาเหตุเค้า แล้วก็เลื่อนวัน ออกบัตรเชิญใหม่ ผมไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียง แต่คนเค้าเริ่มตื่นตัว เพราะมันเป็นเรื่องที่ซีเรียส พอถึงวันนัดไปเอางานออก เอฟบีไอขอตรวจอีกครั้ง ก็เอาออกไม่ได้อีก เรากับเจ้าของแกลเลอรี่ ต้องไปยืนหน้าแกลเลอรีอีกรอบ เพื่อแจ้งแขกที่เชิญมา แล้วออกบัตรเชิญเป็นรอบที่สาม”

เจษฎา คงสมมาศ
วิกฤตสร้างโอกาส …

“ข่าวของผมลงหน้าหนึ่ง ทีวีจากแคนาดาที่แพร่ภาพทั่วอเมริกามาสัมภาษณ์ พนักงานโรงแรมที่ผมพักถามผมว่า คุณเป็นดาราเหรอ เห็นลงหนังสือพิมพ์ ออกทีวีทุกวันเลย … แต่เชื่อหรือเปล่า ภาพของผมถูกจองหมดตั้งแต่ยังไม่เปิดงาน ผมต้องขอเค้าเก็บไว้ชิ้นหนึ่งกลับมาเมืองไทย วันแสดงงานทั้งคนทั้งนักข่าวมากันเต็มไปหมด แล้วมันไม่จบแค่นั้น เจ้าของแกลเลอรี่หลายแห่งในอเมริกา ติดต่อให้ผมไปแสดงงานที่เค้าบ้าง ทำให้ผมมีคอนเนคชั่นเยอะมาก มันพลิกชีวิตผมเลยจากเหตุการณ์นั้น สิ่งที่ตามมาคือ เราต่อรองได้มากขึ้น มีตั๋วเครื่องบิน มีที่พักให้หรือเปล่า บางแกลเลอรี่จัดรถมารับส่งถึงหน้าโรงแรม พาไปเที่ยว อยากไปเที่ยวไหนบอกเลย”

เจษฎา คงสมมาศ
“งานชิ้นที่ผมเอากลับมา มีคนสนใจมาขอซื้อหลายคน แต่ผมไม่ขายให้ใคร ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งรู้ว่ายังไงผมไม่ขายแน่ ๆ เลยชวนผมไปบ้าน ท่านมีคาดิลแลค ปี 1969 รุ่นที่จอห์น เอฟ. เคนเนดี นั่งตอนถูกยิงอยู่คันหนึ่ง เป็นรถตกทอดมาจากคุณพ่อที่นำเข้ามา สภาพมันสมบูรณ์มาก ท่านถาม … แลกกับคันนี้เอามั๊ย … ผมโอเคเลย (หัวเราะ)”

เรียกงานของตัวเองว่า …

“งามผมมันจะพลิกไปเรื่อย ๆ ผมก็เรียกงานตัวเองไม่ถูก แต่ฝรั่งจะเรียก ไทยเซอร์เรียลลิสม์ (Thai Surreallism) เอกลักษณ์ของงานผมคือ จะมีลายผ้าผสมอยู่ เป็นเทคนิคเฉพาะตัว ผมเคยไปสาธิตในรายการสอนศิลป์ ลองเข้าไปดูในยูทูปได้ (สอนศิลป์-อ.เจษฎา คงสมมาศ)”

“ทุกคนจะมีเทคนิคเฉพาะตัว เป็นเอกลักษณ์ซึ่งจะนำพาเราไปถึงจุด ๆ หนึ่ง … ตอนแรกเราเขียนด้วยสีน้ำมัน มันใช้เวลานานมาก กว่าสีจะแห้ง พอเปลี่ยนมาใช้สีอะคริลิกแล้วมันง่ายขึ้น ผมไปทำให้คนแคนาดาดู เค้าทึ่งกันมากกับเทคนิคเรา”

เจษฎา คงสมมาศ
สถานที่แสดงงาน …

“ถ้าเป็นประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นหอศิลป์แห่งชาติ ผมไม่ค่อยแสดงแกลเลอรีเอกชนในประเทศ ล่าสุดปีที่แล้ว งานครบรอบ 150 ปี ประเทศแคนาดา เค้าคัดเลือกศิลปินไปแสดงร่วมกับศิลปินของแคนาดา ฝั่งเอเชียมีผมกับจีน เค้าเน้นศิลปินชาติเค้า เราเป็นตัวเสริม ผมทำงานชุดหนึ่ง ที่รวบรวมวัฒนธรรมทั่วโลกไว้”

“ผมเป็นคนไม่ค่อยโชว์หรือตั้งงานของตัวเอง แม้กระทั่งในบ้าน ก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน มีความรู้สึกว่างานของตัวเองมันยังไม่ดี ยังไม่พอใจ ถ้าจะซื้องานของผม ต้องดูตามงานแสดงอย่างเดียว ส่วนใหญ่ผมจะแสดงที่ต่างประเทศอย่างที่บอก การขายภาพของต่างประเทศเรื่องราคา เรื่องสัญญา เรื่องเปอร์เซ็นต์ที่เค้าคิด มันชัดเจนกว่าบ้านเรา ผมเลยชอบมากกว่า”

เจษฎา คงสมมาศ

มุมมองของพ่อต่อความสำเร็จ …

“ยังไงท่านก็มองเราเป็นเด็กเหมือนเดิม เราต้องพิสูจน์ให้เห็น ทุกวันนี้ก็ยังต้องพิสูจน์อยู่ ผมใช้ชีวิตอยู่ภาคตะวันออกมานาน แถบนั้นเงินมันหาง่าย แต่ผมทิ้งทุกอย่างเพื่อกลับมาดูแลท่าน นี่เป็นเหตุผลหลัก ตอนนี้ก็กำลังทำบ้านใหม่ให้พ่อ อยากให้ท่านอยู่สบาย ๆ”

เจษฎา คงสมมาศ

แกลเลอรี …

“ผมอยากให้คนกาฬสินธุ์ได้ดูงานศิลปะ เพราะจังหวัดเรามันไม่มีพื้นที่แบบนี้ ตอนแรกคิดจะทำที่บ้าน แต่ติดปัญหาเรื่องพ่อไม่ค่อยแข็งแรง กลัวคนเข้าคนออกแล้วจะไปรบกวนการพักผ่อน ผมเลยมาทำตรงนี้ เอาง่าย ๆ คือผมยอมจ่ายค่าเช่าที่นี่ เพื่อได้ทำอะไรสนุก ๆ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ลองเปิดแสดงไปสามนิทรรศการแล้ว อีกอย่างคือผมซื้องานนักศึกษาด้วย ถึงวันนี้ซื้อมาประมาณห้าสิบกว่าชิ้นแล้ว ตอนนี้กำลังขยายไปเช่าห้องข้าง ๆ เพราะพื้นที่ไม่พอเก็บ ผมจะโชว์ประติมากรรม คือโชว์เฉย ๆ ให้คนกาฬสินธุ์เค้าได้มาดู เราจัดนิทรรศการสามครั้งที่ผ่านมา เราเอาขนมมาเลี้ยง ให้นักศึกษามานั่งวาดรูปคนที่มาชมงาน ซึ่งมากันเยอะมาก”

เจษฎา คงสมมาศ
แกลเลอรี่เลี้ยงตัวเองจาก …

“ตรง ๆ คือจากเงินส่วนตัว เงินจากการขายงาน คือตัวผมอยู่ได้แล้ว ผมจะไม่ให้ศิลปินมาจัดแสดงงานที่นี่ เพราะไม่อยากให้มันมีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง เราไม่ได้ร่ำรวยมากมาย แต่เราดูแลตัวเองได้ สิบกว่าปีที่กลับมาอยู่กาฬสินธุ์ ก็คิดว่าเราพอจะทำอะไรได้บ้าง เลยมานั่งคุย นั่งปรึกษากับคุณกุ๊ดจี่ แล้วค่อย ๆ ลงมือทำของเราไป มีคนถามว่าทำแบบนี้แล้วได้อะไร ซึ่งทุกคนก็ต้องสงสัย … เราอยากทำอะไร โดยไม่ต้องการอะไรตอบแทน”

เจษฎา คงสมมาศ

ทุนศิลปะอีสาน …

“ปีที่แล้วเรามอบทุนสนับสนุนศิลปนิพนธ์ ให้นักศึกษาโครงการละหนึ่งหมื่นบาท ผมขายภาพพิมพ์ได้เงินมาสองแสนกว่า ประกาศให้นักศึกษาเข้ามาขอทุนได้เลย เด็กเค้ามากันเยอะ ก็เลยประเมินว่า เราจะทำอะไรมากกว่านี้ได้บ้าง ปีนี้ผมเลยขายภาพจริง เป็นงานสีน้ำ ได้มาเจ็ดแสน เพราะราคางานเราค่อนข้างสูง ผมก็ประกาศเหมือนเดิม เชิญขอมาเลย”

“ตอนไปมอบทุนให้นักศึกษา เลยได้มีโอกาสคุยกับอาจารย์ มันเลยเกิดโครงการขึ้นมา โดยเราจะคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุด ของนักศึกษาที่กำลังจะจบจาก 13 สถาบันในภาคอีสานมาจัดแสดง ซึ่งผมก็หาทุนมาทำ สุดท้ายคัดเลือกมาได้ 18 โครงการศิลปนิพนธ์ มาจัดแสดงร่วมกันที่หอศิลป์พระพิฆเนศวร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม”

เจษฎา คงสมมาศ, เจษฎา, คงสมมาศ, ศิลปะนิพนธ์อีสาน, ทุนศิลปะอีสาน, ศิลปินกาฬสินธุ์, ศิลปินอีสาน, ไทยเซอร์เรียลลิสม์, Thai Surreallism, ดีโน่ศิลป์, ทุกสิ่งสร้างสรรค์ณกาฬสินธุ์, มมส, มหาสารคาม

 

นิทรรศการ “ศิลปนิพนธ์อีสาน”
ISAAN ART THESIS Exhibition
วันที่ 15 สิงหาคม -15 กันยายน 2561
ณ หอศิลป์พระพิฆเนศวร 1 และ 2
คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ชอบงานนักศึกษาเพราะ …

“เราส่งเสริมเค้า การให้ทุนเป็นการให้รวม ๆ แต่การซื้องานเหมือนการให้ทุนเฉพาะบุคคล การซื้องานนักศึกษาผมเป็นคนเลือกเอง หลายสถาบันเชิญผมไปตรวจงาน ผมก็จะเห็นพัฒนาการของเด็กแต่ละคน ส่วนใหญ่เค้าจะเชิญศิลปินไปจัดการกับนักศึกษา หรือไปให้คำแนะนำเพิ่มเติม เพราะเด็กบางคนเค้าจะดื้อกับอาจารย์ ผมไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายนะ ทุกอย่างออกเอง ค่าเดินทาง ค่าที่พัก เราไปเสริมอาจารย์ ให้เด็กเค้าเชื่ออาจารย์มากขึ้น ไม่ได้ไปขวางทางอาจารย์”

เจษฎา คงสมมาศ
งานสำคัญที่กำลังทำ …

“เราต้องบ่มเพาะ สร้างนักสะสมขึ้นมา ภาคอีสานขาดแคลนนักสะสม นักศึกษาเค้าไม่มีพื้นที่แสดงงาน สร้างงานในมหาวิทยาลัย ทำงานที่ตึก ส่งงานที่ตึก แสดงงานใต้ตึก โลกมันมีอยู่แค่นั้น เราเข้าไปสนับสนุน ผลักเค้าให้ออกไปแสดงงานในห้างสรรพสินค้า งานขายได้ มันก็เป็นทุน สร้างกำลังใจให้เค้า คนที่ไปเดินห้าง พอเห็นบ่อยเข้ามันก็สนใจ จนเกิดรสนิยม อาจไม่ใช่คนรุ่นนี้ที่คิดจะสะสมงานศิลปะ แต่เป็นรุ่นลูกรุ่นหลาน อีกสิบปียี่สิบปีที่เค้าซึมซับมาเรื่อย ๆ จากการเห็นงานศิลปะ ที่จัดแสดงในห้างที่เค้าไปเดินเล่นบ่อย ๆ”

“ถ้าคนอีสานสร้างงานแล้วคนอีสานซื้อ มันก็อยู่ได้ จริง ๆ แล้วศิลปินอีสานมีฝีมือเยอะนะ แต่กระจัดกระจายไปช่วยสร้างงานที่อื่นไม่ยอมกลับบ้าน”

เจษฎา คงสมมาศ
ใครมีโอกาสผ่านหรือตั้งใจไปเที่ยวกาฬสินธุ์ แวะไปเยี่ยมชม พูดคุยกับอาจารย์ได้ที่แกลลอรี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านข้างโชว์รูมมิตซูบิชิ เซ็นทรัล รุ่งเรือง ถ.ถีนานนท์

หรือติดตามผลงานและกิจกรรมต่าง ๆ ของอาจารย์เจษฎา คงสมมาศ ได้ที่ FB : Jessada Kongsommart

 

artoftravelercom